“หน่อไม้หวานต้มกะทิ ” หน่อไม้หวานต้มกะทิ เป็นอาหารพื้นบ้านภาคใต้ที่มีรสชาติไม่เผ็ด รสชาติออกหวานและมัน จากกะทิ รสเค็มจากกะปิแล้ว เพิ่มคุณค่าอาหารด้วยผักชนิดต่างๆ ทั้งชะอม และสะตอ และขาดไม่ได้เลยคือ หน่อไม้หวาน ซึ่งหาได้ง่ายในทุกภาค โดยเฉพาะในช่วงฤดูฝน หรืออาจจะเปลี่ยนมาใช้ยอดมะพร้าวก็ได้แล้วแต่ความชอบหรือความสะดวก เมนูหน่อไม้หวานต้มกะทิหากได้รับประทานคู่กับน้ำพริกกะปิแล้ว จะช่วยเพิ่มรสชาติได้เป็นอย่างดี | ||
คุณค่าอาหารทางโภชนาการ |
||
หน่อไม้หวานต้มกะทิเป็นอีกเมนูหนึ่งที่น่าสนใจ ชื่อบอกแล้วว่า หน่อไม้หวานแล้วก็ต้มกับกะทิ เพราะฉะนั้นเอกลักษณ์ของอาหารเมนูนี้ก็คือความหวาน และก็ความมัน เป็นอาหารอีกเมนูหนึ่งที่มีรสชาติไม่จัดจ้านจึงรับประทานได้ทั้งเด็ก และผู้ใหญ่ หน่อไม้หวาน เป็นหน่อไม้ที่หาได้ตามฤดูกาล เพราะฉะนั้นบางช่วงเวลา หากหาไม่ได้ก็นิยมใช้ยอดมะพร้าวแทน ส่วนประกอบอื่นๆ ของ หน่อไม้หวานต้มกะทิ ก็จะมีสะตอ ซึ่งสะตอเป็นอาหารประจำถิ่นของภาคใต้ แล้วก็ชะอม ทั้งสะตอและชะอมจะช่วยเพิ่มในเรื่องของสีสัน เพราะว่าหน่อไม้หรือว่ายอดมะพร้าวเองก็ตาม จะมีสีขาวๆ ครีมๆ เมื่อต้มกับกะทิ ก็จะกลายเป็นสีที่จืดๆ ชืดๆ ไปเพราะฉะนั้นการใส่สะตอที่มีสีเขียวอ่อน การใส่ชะอมที่มีสีเขียวเข้มก็จะทำให้สีสันของอาหารเมนูนี้น่ารับประทานมากขึ้น นอกจากเพิ่มในเรื่องสีสันแล้ว ยังเพิ่มกลิ่น และรสชาติในบางอย่างที่ทำให้องค์ประกอบของอาหารเมนูนี้ รับประทานแล้วน่าจะมีความเอร็ดอร่อย หน่อไม้ ชะอม และสะตอ ก็คือผัก ที่เป็นหลักของอาหารเมนูนี้ ทำให้ผู้ที่รับประทานได้ใยอาหารค่อนข้างสูง ไม่ว่าจะเป็นยอดมะพร้าวหรือหน่อไม้ สะตอ หรือชะอม เป็นพืชผักที่ให้ใยอาหารสูง จะมีวิตามิน แร่ธาตุบางชนิด โดยเฉพาะ ชะอม ซึ่งมีสีเขียวก็จะมีสารออกฤทธิ์ทางชีวภาพที่เป็นประโยชน์ต่อสุขภาพ เช่น ช่วยในเรื่องของการต้านอนุมูลอิสระได้ แต่ที่สำคัญก็คือ อาหารเมนูนี้มีการใส่กะทิ กะทิเมื่อรับประทานมีรสชาติมัน แต่ก็จะมีไขมันอิ่มตัวอยู่ค่อนข้างสูง ไขมันอิ่มตัวก็อาจจะ มีผลกระทบต่อสุขภาพ โดยเฉพาะบางท่านที่อ้วน น้ำหนักเกิน หรือว่าเป็นโรคหัวใจ โรคความดันโลหิตสูง เพราะฉะนั้นจึงควรต้องระวัง แต่ถ้าเป็นคนปกติสุขภาพแข็งแรงดี ก็สามารถรับประทานได้ปกติ ส่วนคนที่มีปัญหาด้านสุขภาพ ก็ไม่ควรรับประทานน้ำกะทิมากเกินไป เพราะว่าอาจจะมีผลกระทบกับไขมันในเส้นเลือด แล้วก็เป็นการสะสม พลังงานส่วนเกิน ไม่จำเป็นต่อสุขภาพมากสักเท่าไร ส่วนเด็กๆ สามารถรับประทานได้ เพราะว่าเป็นอาหารที่มีรสชาติไม่เผ็ดแต่มีความหวาน ความมัน เนื่องจากเด็กๆ ยังต้องการพลังงานในการเจริญเติมโตค่อนข้างสูง เพราะฉะนั้นก็เลือกรับประทานให้เหมาะสมกับวัย และภาวะสุขภาพของแต่ละคน เพื่อการมีสุขภาพที่ดีนอกจากนี้ควรหาอาหารเครื่องเคียงอื่นๆ เช่นอาหารประเภทน้ำพริก สำหรับผู้ใหญ่ที่ต้องการรสจัด ถ้ารับประทานร่วมกับน้ำพริกก็จะได้ความสุขจากการรับประทานอาหารที่มีหลากหลายรสชาติ |
||
ส่วนผสม:เครื่องปรุงรส |
วิธีทำหน่อไม้หวานต้มกะทิ |
|||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
|
|
|||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
ข้อมูลคุณค่าโภชนาการโดย...ผู้ช่วยศาสตราจารย์ ดร.สมศรี เจริญเกียรติกุล |
||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
วิทยากรการปรุงอาหาร...อัมพร มหารัตน์ |
||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
โครงการเผยแพร่และอนุรักษ์อาหารไทยผ่านเว็บไซต์สถาบันโภชนาการ |