“ลาบหมู” เป็นอาหารพื้นบ้านของทั้งภาคอิสานและภาคเหนือ จะแตกต่างกันที่ลาบอิสาน จะทำเป็นลักษณะการยำ ส่วนลาบทางเหนือ หรือลาบเมือง จะเป็นลักษณะลาบคั่ว มีเครื่องเทศผสมมากกว่าและต้องนำไปคั่วไฟในกะทะ โดยมีเครื่องเทศประจำถิ่นผสมในลาบที่ใช้ทำ รสชาติจะออกร้อนแรงกว่าลาบภาคอิสาน |
||
คุณค่าอาหารทางโภชนาการ |
||
ลาบหมู เป็นเมนูอาหารที่คนทางภาคเหนือนิยมรับประทานในเทศกาลต่างๆ ที่เป็นงานมงคล เช่น งานแต่งงาน จุดเด่นของลาบหมูภาคเหนือที่ต่างจากทางภาคอีสานก็คือ “น้ำพริกแกง” น้ำพริกแกงที่มีการใส่เครื่องเทศต่างๆ เช่น มะแหว่น บางที่เรียก มะแล่บ ทางภาคกลางเรียกว่า เทียนตั๊กแตน มะแล่บ ซึ่งเป็นเครื่องเทศที่ให้รสเผ็ดร้อนแรง เครื่องเทศอีกตัวหนึ่งก็คือ มะแกว่น มะแกว่นจะเป็นตัวชูโรงรสชาติของน้ำพริกลาบหรือลาบหมู สำหรับเครื่องเทศอีกตัวหนึ่งที่ให้รสชาติร้อนแรงก็คือ ดีปลี ใช้ดีปลีตากแห้งสรรพคุณของดีปลี จะมีสารประกอบทางเคมีที่สำคัญคือ พิเพอรีน(Piperine) ซึ่งมีข้อมูลทางวิทยาศาสตร์ยืนยันว่า พิเพอรีนเป็นสารประกอบของพืชที่มีสรรพคุณสามารถป้องกันโรคมะเร็ง สามารถป้องกันหลอดเลือดอุดตันได้ และส่วนประกอบอีกอย่างหนึ่งก็คือ เมล็ดผักชีแห้ง ซึ่งจะให้กลิ่นหรือรสชาติของลาบหมูคุณค่าทางโภชนาการของหนึ่งหน่อยบริโภคของเมนูลาบหมู มีดังนี้ |
||
จุดเด่นของลาบหมู อยู่ตรงที่เครื่องเทศที่มีอยู่ในพริกแกงของลาบหมู ไม่ว่าจะเป็นมะแล่บ มะแกว่น ดีปลี หรือ เมล็ดผักชี เครื่องเทศเหล่านี้ล้วนให้สารต้านอนุมูลอิสระ ดักจับสารพิษในลำไส้ และควรรับประทานควบคู่กับผักสดผักเครื่องเคียงต่างๆ ก็จะได้ใยอาหารด้วย ข้อควรระวังในการรับประทานลาบหมูคือ ผู้ที่มีปัญหาโรคเก๊าท์ ไขข้ออักเสบ ไขมันในเลือดสูง ควรหลีกเลี่ยงการรับประทานลาบหมู สามารถรับประทานได้บ้าง แต่อย่ารับประทานมากเกินไป เพราะเครื่องในสัตว์ที่เป็นองค์ประกอบของลาบหมูจะไปเพิ่มความรุนแรงของโรคได้ และการรับประทานควรรับประทานคู่กับผักสดให้มาก ๆ |
||
เครื่องน้ำพริกลาบ |
วิธีทำน้ำพริก |
||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
|
|
||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
ข้อมูลคุณค่าโภชนาการโดย...มลฤดี สุขประสารทรัพย์ |
|||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
ริญ เจริญศิริ |
|||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
วิทยากรการปรุงอาหาร...ทิวาพร ปินตาสี |
|||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
เผยแพร่วันที่...15 ธันวาคม พ.ศ.2557 |
|||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
โครงการเผยแพร่และอนุรักษ์อาหารไทยผ่านเว็บไซต์สถาบันโภชนาการ |