“น้ำพริกอ่อง” เป็นน้ำพริกพื้นบ้านของทางภาคเหนือ รู้จักแพร่หลายกันเป็นอย่างดี สีสรรของน้ำพริกอ่อง นับว่าสวยงาม น่ารับประทาน ออกสีส้มแดง ที่ได้จากมะเขือเทศและพริกแห้ง มีเนื้อหมูประกอบในน้ำพริก รสชาติออก เค็ม เผ็ดเล็กน้อย มีรสหวาน อมเปรี้ยวจากมะเขือเทศ นิยมรับประทานกับผักสด และแคบหมู ทำง่ายไม่ยุ่งยาก
|
||
คุณค่าอาหารทางโภชนาการ |
||
เมื่อกล่าวถึงน้ำพริกอ่องก็เป็นทราบกันอยู่แล้วก็คือ อาหารทางภาคเหนือน้ำพริกอ่องมีจุดเด่นคือมะเขือเทศ ที่เป็นตัวที่ทำให้น้ำพริกอ่องเมนูนี้มีสีแดงสดใสน่ารับประทาน ซึ่งสีแดงสดใสพบได้จากสารสำคัญที่อยู่ในมะเขือเทศก็คือ เบต้าแคโรทีนและไลโคปีน สารทั้ง 2 ตัวนี้ เป็นตัวสำคัญที่มีประโยชน์ต่อร่างกายในการกำจัดสารพิษ ป้องกันอนุมูลอิสระและที่สำคัญในไลโคปีน (Lycopene) ยังช่วยในเรื่องของหลอดเลือดอุดตัน ช่วยลดไขมันอุดตันในเส้นเลือดได้ และก็ลดความเสี่ยงต่อโรคมะร็งได้ด้วย นอกจากนี้ในผู้ป่วยเบาหวานมีรายงานวิจัยพบว่าสารไลโคปีนยังช่วยชะลอการเกิดโรคเบาหวานได้ด้วย นอกจากนี้พริกเองก็ยังมีสารแคปไซซิน(capsaicin) วิตามินซี รวมทั้งเบต้าแคโรทีน (β-carotene) ก็ช่วยเพิ่มประสิทธิภาพทำให้เมนูนี้มีประโยชน์ต่อผู้บริโภคมากยิ่งขึ้น แต่สิ่งที่ระวังในการทำน้ำพริกอ่องก็คือ เนื้อหมูที่ส่วนมากนิยมใช้หมูสับก็ควรเลือกเนื้อหมูแดงให้มากเพราะว่าจะได้มีปริมานไขมันจากเนื้อสัตว์น้อยลงด้วย คุณค่าทางโภชนาการต่อหนึ่งหน่วยบริโภคของน้ำพริกอ่องมีดังนี้คือ |
||
จุดเด่นของมะเขือเทศซึ่งเป็นเครื่องปรุงหลักของน้ำพริกอ่องก็คือ มะเขือเทศ ที่จะมีไลโคปีน เบต้าแคโรทีน และวิตามินซีสูง ส่วนข้อควรระวังคือ ปริมาณไขมัน ดังนั้นน้ำมันพืชที่ใช้ผัดควรใส่ให้น้อยลง ควรใส่ ½ - 1 ช้อนชา และควรรับประทานคู่กับผักเครื่องเคียงให้มากยิ่งขึ้น ไม่ว่าจะเป็น ผักสด ผักต้ม หรือผักลวก เพราะจะได้รับประโยชนืจากผักที่กินเข้าไป |
||
ส่วนผสมเครื่องแกง |
วิธีทำเครื่องแกง |
|||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
|
|
|||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
ข้อมูลคุณค่าโภชนาการโดย...มลฤดี สุขประสารทรัพย์ |
||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
ริญ เจริญศิริ |
||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
วิทยากรการปรุงอาหาร...ทิวาพร ปินตาสี |
||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
เผยแพร่วันที่...15 ธันวาคม พ.ศ.2557 |
||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
โครงการเผยแพร่และอนุรักษ์อาหารไทยผ่านเว็บไซต์สถาบันโภชนาการ |