น้ำพริกไข่ปู (ตำรับนี้รับประทานได้ประมาณ 4 คน)

 

Template 01
Template 01
Template 01
      “น้ำพริกไข่ปู” เมนูอาหารพื้นบ้านภาคตะวันออก ที่นำไข่ปูทะเลมาเป็นวัตถุดิบหลักกินเคียงกับผักต่างๆ โดยเฉพาะผักพื้นบ้าน จึงให้คุณค่าทางโภชนาการที่หลากหลาย ซึ่งได้ทานอาหารเมนูนี้แล้ว เราควรรู้ถึงคุณค่าทางโภชนาการว่ามีอะไรบ้าง
 
คุณค่าอาหารทางโภชนาการ
       น้ำพริกไข่ปู เป็นเมนูพื้นบ้านของภาคตะวันออก เช่น จังหวัด จันทบุรี ตราด ระยอง ดูจากชื่อน้ำพริกก็คงจะทราบว่า วัตถุดิบหลักๆ ก็คือ ไข่ปูนั่นเอง วิธีทำนำไข่ปูมาผสมกับพวกเครื่องเทศต่างๆ คือ พริก กระเทียม และมะนาว วัตถุดิบต่างๆ เหล่านี้ทำเป็นน้ำพริกขึ้นมา ซึ่งตัวน้ำพริกไข่ปูเอง ข้อดีคือ กินเปล่าๆ ไม่ได้ จะต้องกินเคียงกับผัก ผักที่เขานิยมเคียงหลักๆ ก็จะเป็นผักพื้นบ้านทั้งหลาย เช่น ต้นคูน ต้นคูนนี้ไม่ใช่ต้นคูนใหญ่ๆ ที่เรารู้จักในภาคกลาง ต้นคูนนี้ลักษณะคล้ายต้นบอน ใช้ตรงส่วนก้าน โดยเอาตัวก้านนั้นมากปอกเปลือก กินเคียงกับน้ำพริก ผักเคียงอื่นๆ จะมีมะเขือ กับภาคกลาง แล้วก็มีถั่วฝักยาว ถั่วพู  ผักเหล่านี้เป็นแหล่งของใยอาหารที่เราจะได้รับจากการกินน้ำพริก นอกจากนี้ยังเป็นแหล่งของสารต้านอนุมูลอิสระ ซึ่งเวลากินจะได้ประโยชน์เชิงพันธภาพต่อร่างกายด้วย สารต้านอนุมูลอิสระป้องกันโรคต่างๆ ได้

       ส่วนคุณค่าโภชนาการของน้ำพริกไข่ปู เมนูนี้ มีการกระจายพลังงานค่อนข้างจะดีทีเดียว ในตัวของน้ำพริก จะมีคาร์โบไฮเดรต ประมาณร้อยละ 50 โปรตีนร้อยละ 30  พลังงานจากไขมันก็ร้อยละ 15  แต่เมื่อนำมากินร่วมกับข้าว พลังงานส่วนใหญ่ที่ได้รับจะมาจากข้าว ส่วนพลังงานจากโปรตีนต่ำจะไปเล็กน้อย นักโภชนาการแนะนำว่าควรจะได้ร้อยละ 15 แต่ก็ได้รับเพียงร้อยละ 13 ส่วนพลังงานที่มาจากไขมันถือว่าดี เพราะให้ไขมันต่ำมาก เพียงร้อยละ 5 เท่านั้น

 

       โดยสรุปแล้วน้ำพริกไข่ปูเอง ตัวโปรตีนจะต่ำลงไปเล็กน้อย พลังงานที่มาจากคาร์โบไฮเดรตจะสูงไปเล็กน้อย  แต่ไม่ต้องกังวล เพราะเรากินร่วมกับอาหารอื่น เช่น ผัดผัก ก็จะได้น้ำมันเพิ่มมา แล้วก็ถ้ามีเนื้อสัตว์อย่างอื่นก็จะเพิ่มโปรตีนขึ้นมาอีก ก็จะทำให้อาหารมื้อนั้นสมบูรณ์มากขึ้น มีความสมดุลมากขึ้น ข้อดีของเมนูน้ำพริกไข่ปูคือ มีใยอาหารสูง แต่สิ่งที่ตามมาก็จะมีคอเรสเทอรอลที่สูงไปเล็กน้อยคือ ประมาณร้อยละ 20 ก็ไม่ได้สูงจนน่ากลัว แต่ก็ให้ระวังว่า คอเรสเทอรอล ก็มาจากไข่ปู ข้อดีอีกอย่างของเมนูน้ำพริกไข่ปู ก็คือ โซเดียมต่ำ เนื่องจาก เรากินน้ำพริกเป็นเครื่องจิ้ม จึงได้รับครั้งละไม่มาก เรากินผักมาก กินข้าวมาก เพราะฉะนั้นก็ทำให้ได้รับโซเดียมไม่สูงเกินไป สิ่งนี้ถือว่าเป็นข้อดีของเมนูนี้

 
เครื่องผสมน้ำพริกไข่ปู
วิธีทำน้ำพริกไข่ปู
- ไข่ปูนึ่งสุก ½ ถ้วยตวง
- กระเทียมกลีบเล็กปอกเปลือก ¼ ถ้วยตวง
- พริกขี้หนูสด 1 ช้อนโต๊ะ
- น้ำมะนาว 2 ช้อนโต๊ะ
- น้ำปลา 1 ช้อนโต๊ะ
- น้ำตาลทรายแดง 1 หยิบมือ
   
ผักเคียงน้ำพริกไข่ปู
- ต้นคูณลอกเปลือก 4 ต้น
- ถั่วพู 7 ผัก
- แตงกวาลูกเล็ก 6 ลูก
- มะเขือลายเล็กมีขั้ว 7 ลูก
- มะเขือม่วงมีขั้ว 3 ลูก
- มะเขือเปราะขนาดกลางมีขั้ว 3 ลูก
1.
นำพริกขี้หนู กระเทียมที่ปอกเปลือกเตรียมไว้แล้วมาโขลกให้ละเอียด เมื่อกระเทียมและพริกขี้หนูละเอียดแล้วให้นำไข่ปูที่เตรียมไว้มาโขลกรวมกัน ตักใส่ถ้วย
2. ปรุงรสด้วยน้ำปลา น้ำมะนาว และน้ำตาลทรายแดง  เสร็จแล้วคลุกเคล้าให้เข้ากัน   แต่งสีสันน้ำพริกที่ปรุงเสร็จแล้วด้วยการนำพริกขี้หนูแต่งบนหน้าน้ำพริกให้ดูสวยงาม  เสิร์ฟพร้อมผักเคียง กินคู่กับข้าวสวยร้อนๆ
 
   
   
   
   
ข้อมูลคุณค่าโภชนาการโดย...รองศาสตราจารย์ วิสิฐ จะวะสิต
ริญ เจริญศิริ
วิทยากรการปรุงอาหาร...ยุพา นิยมวานิช
โครงการเผยแพร่และอนุรักษ์อาหารไทยผ่านเว็บไซต์สถาบันโภชนาการ
Go to Top