“ห่อหมกปลาช่อนใบยอ” เป็นอาหารไทยยอดนิยมอีกจานหนึ่งที่มักจะถูกสั่งขึ้นโต๊ะเสมอ เพราะเนื้อปลาแน่น ไม่มีกลิ่นคาว ยิ่งห่อหมกปลาช่อนใบยอ มีใบยอที่มีรสชาติขมอ่อนๆเป็นเอกลักษณ์แต่เข้ากันได้เป็นอย่างดี การปรุงห่อหมกปลาช่อนใบยอ จะมีการใส่กะทิ เนื้อปลา และพริกแกง เคล็บลับสำคัญอยู่ที่การกวนเนื้อห่อหมกต้องคนจนข้นเหนียว จะทำให้ห่อหมกมีรสชาติอร่อย | ||
คุณค่าอาหารทางโภชนาการ |
||
ห่อหมกโบราณ ส่วนประกอบของผักที่ใช้ก็คือใบยอ แต่ในปัจจุบันก็เห็นได้ว่า มีทั้งใบโหระพา ใบกะเพรา กะหล่ำปลี แต่สูตรที่แท้จริงก็คือ ใบยอ การใช้ใบยอ เป็นภูมิปัญญาของบรรพบุรุษ จากการศึกษาวิจัย พบว่าใบยอ มีสารประกอบบางอย่างที่เป็นประโยชน์ต่อสุขภาพค่อนข้างมาก ประโยชน์ต่อสุขภาพของห่อหมก เราจะเห็นว่า ส่วนใหญ่ทำจากเนื้อปลา ปลาก็เป็นแหล่งโปรตีนที่เป็นประโยชน์ต่อร่างกาย ย่อยง่าย มีไขมันต่ำ แต่ขณะเดียวกัน ห่อหมกมีการใช้กะทิเป็นส่วนปประกอบ ก็เลยเพิ่มไขมันเข้ามาให้เหมาะสม แล้วก็มีการใช้พริกแกง เป็นที่ทราบกันดีว่ามีประโยชน์ต่อสุขภาพ เพราะว่าประกอบด้วยสมุนไพรต่าง ๆ หลายชนิด นอกจากนี้ ใบยอเป็นตัวช่วยทำให้เกิดความสมดุลของอาหารเมนูนี้ ในแง่ที่ว่าเป็นผัก เมื่อมีส่วนประกอบของผัก มีส่วนประกอบของไขมัน และโปรตีนแล้ว ก็ทำให้อาหารเมนูนี้ค่อนข้างสมบูรณ์ ตัวใบยอให้ประโยชน์ต่อสุขภาพ ในเรื่องของสารออกฤทธิ์ทางชีวภาพ ช่วยลดการต้านอนุมูลอิสระ ช่วยทำให้เกิดการป้องกันโรคในหลาย ๆ ด้าน เพราะฉะนั้นเป็นอาหารเมนูหนึ่งที่แนะนำให้ช่วยกันอนุรักษ์ และบริโภคกันเป็นประจำ |
||
ส่วนผสม |
วิธีทำ |
||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
|
|
||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
ข้อมูลคุณค่าโภชนาการโดย...ผู้ช่วยศาสตราจารย์ ดร.สมศรี เจริญเกียรติกุล |
|||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
วิทยากรการปรุงอาหาร...อทิตดา บุญประเดิม |
|||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
โครงการเผยแพร่และอนุรักษ์อาหารไทยผ่านเว็บไซต์สถาบันโภชนาการ |