“น้ำพริกกะปิ ปลาทูทอด”เป็นเครื่องจิ้มที่รับประทานควบคู่กับผักต่างๆ ทั้งผักสด ผักลวก และ/หรือผักชุบไข่ทอด เครื่องปรุงหลักคือ กะปิ ซึ่งต้องเป็นกะปิคุณภาพดี นั่นคือมีเนื้อเนียนละเอียด แห้ง มีกลิ่นหอม เครื่องปรุงหลักชนิดอื่นคือ พริก และมะนาว นอกจากนี้น้ำพริกกะปิในแต่ละพื้นที่อาจมีเครื่องปรุงที่หลากหลาย แตกต่างกันไปในแต่ละท้องถิ่น เช่น บางท้องถิ่นมีการใส่กุ้งแห้งป่นและ/หรือมะเขือเปราะ และผักชนิดอื่นๆ ลงไปด้วย คนไทยนิยมกินข้าวกับน้ำพริกกะปิผักจิ้ม จึงได้ทั้งรสชาติอร่อยและคุณค่าโภชนาการที่หลากหลายและครบถ้วน
| ||
คุณค่าอาหารทางโภชนาการ |
||
น้ำพริกกะปิ เป็นเมนูอาหารที่ถ้ามองโดยรวมจะค่อนข้างใหญ่ เพราะนอกจากจะประกอบด้วยตัวน้ำพริกเองแล้ว ก็จะมีเครื่องเคียงเป็นปลาทูทอด แล้วก็มีผัก ซึ่งผักสำหรับกินคู่กับน้ำพริกกะปิปลาทูทอด ก็จะมีหลากหลายมาก ตั้งแต่ผักทอด ผักสด ผักลวกหรือผักต้ม ถ้าดูในด้านคุณค่าทางโภชนาการ ตัวน้ำพริกกะปิเป็นตัวช่วยในเรื่องของการเพิ่มรสชาติ ประโยชน์ต่อสุขภาพของน้ำพริก อยู่ที่เครื่องเคียงที่เป็นผัก ปลาทูทอดก็เป็นโปรตีนที่สำคัญ ก็คือจากปลา แล้วก็เป็นปลาทะเล เพราะฉะนั้นก็จะได้สารสำคัญบางอย่างเช่น ไอโอดีน หรือว่า โอเมก้า 3 ซึ่งเรารู้จักกันว่ามันมีผลต่อการบำรุงสมอง เพราะฉะนั้นปลาทูก็จะเป็นแหล่งของโปรตีนที่ดีมาก แล้วไขมัน ก็เป็นไขมันที่มีประโยชน์ สำหรับผักที่ใช้เป็นเครื่องเคียง เราก็จะพบว่ามีผักหลายชนิดผักชนิดหนึ่งที่คนทั่วไปนิยมก็คือ ชะอมชุบไข่ทอด ขณะเดียวกันการที่มีไข่ใส่เข้าไปในผักด้วยก็เป็นการเพิ่มคุณค่าทางโภชนาการอย่างหนึ่ง แล้วการใช้น้ำมัน ก็ช่วยให้สารสำคัญบางอย่างเช่น เบต้าแคโรทีนที่มีอยู่ผักใบเขียว หรือแม้กระทั่งในชะอมเอง สามารถดูดซึมแล้วร่างกายก็เอาไปใช้ประโยชน์ บำรุงสายตา ช่วยลดอนุมูลอิสระ นอกจากชะอมแล้วก็ยังมีผักอื่นๆหลากหลาย เช่น มะเขือเปราะ ก็มีประโยชน์เพราะว่าในมะเขือเปราะมีใยอาหารชนิดที่ละลายน้ำอยู่ค่อนข้างมากจึงช่วยในเรื่องของการดูดซึมไขมัน แล้วก็พาไขมันออกจากร่างกาย เรากินข้าวกับน้ำพริกกะปิหนึ่งชุดนี้ ถือว่าเราได้อาหารครบ 5 หมู่ แล้วเป็น 5 หมู่ที่มีสัดส่วนที่ค่อนข้างดี ตามหลักโภชนการเกือบทุกประการ |
||
ส่วนผสม:น้ำพริกกะปิ |
วิธีทำน้ำพริกกะปิ
|
|||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
|
|
|||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
ข้อมูลคุณค่าโภชนาการโดย...ผู้ช่วยศาสตราจารย์ ดร.สมศรี เจริญเกียรติกุล |
||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
วิทยากรการปรุงอาหาร...อทิตดา บุญประเดิม |
||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
โครงการเผยแพร่และอนุรักษ์อาหารไทยผ่านเว็บไซต์สถาบันโภชนาการ |